ล้าง
เสื้อผ้าซาตินทำจากโปรตีนและเส้นใยสุขภาพที่อ่อนนุ่ม การซักไม่ควรถูกับผ้าเนื้อหยาบ และซักด้วยเครื่องซักผ้า ควรแช่ผ้าในน้ำเย็นประมาณ 5 —— 10 นาที โดยใช้ผงซักฟอกสูตรพิเศษที่มีฟองอากาศต่ำหรือสบู่ที่เป็นกลาง นวดเบาๆ แล้วถูเบาๆ เสื้อผ้าไหมสีแล้วล้างออกด้วยน้ำซ้ำหลายๆ ครั้ง
(1) เสื้อผ้าสีเข้มหรือผ้าไหมควรซักแยกจากเสื้อผ้าสีอ่อน
(2) เสื้อผ้าไหมที่เปื้อนเหงื่อควรซักหรือแช่น้ำทันที อย่าใช้น้ำร้อนเกิน 30 องศาในการซัก
(3) เมื่อซักผ้าไหม ควรใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือผงซักฟอกที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ ควรใช้ผงซักฟอกเฉพาะสำหรับผ้าไหม
(4) ควรซักด้วยมือดีที่สุด หลีกเลี่ยงการบิดหรือขัดด้วยแปรงแข็ง ควรขยี้เบาๆ ด้วยน้ำ บีบน้ำเบาๆ ด้วยมือหรือผ้าขนหนู ตากในที่ร่ม
อากาศ
เสื้อผ้าไหมหลังซักไม่ควรตากแดด ไม่ใช้เครื่องอบผ้า โดยทั่วไปควรตากในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทสะดวก เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดอาจทำให้ผ้าไหมเหลืองซีดและเสื่อมสภาพได้ง่าย ดังนั้นเสื้อผ้าไหมไม่ควรบิดน้ำ ควรสะบัดเบาๆ หันผ้าออกด้านนอก ตากให้แห้งประมาณ 70% แล้วรีดหรือสะบัดให้เรียบ
(1) ควรรีดด้วยอุณหภูมิแห้ง 80% และไม่ควรฉีดน้ำโดยตรง และในการรีดด้านหลังของเสื้อผ้า ควรควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 100-180 องศา
(2) เมื่อเก็บรวบรวมควรซัก ตากให้แห้ง พับให้เรียบร้อย และห่อด้วยผ้า ใส่ในตู้ และไม่ควรใส่การบูรหรือลูกประคบ
การรีดผ้า
ประสิทธิภาพในการป้องกันการยับของเสื้อผ้าไหมแท้นั้นแย่กว่าเสื้อผ้าใยเคมีเล็กน้อย จึงกล่าวกันว่า "ไม่ยับก็ไม่ใช่ไหมแท้" หลังจากซักผ้า เช่น เสื้อผ้าที่มีรอยยับ จำเป็นต้องรีดเพื่อให้ผ้าเรียบ เรียบหรู และสวยงาม เมื่อรีด ควรตากผ้าให้แห้งประมาณ 70% แล้วฉีดน้ำให้ทั่ว แล้วรีดด้วยความร้อนประมาณ 3-5 นาที ควรควบคุมอุณหภูมิในการรีดให้ต่ำกว่า 150°C ไม่ควรกดเตารีดลงบนผิวผ้าไหมโดยตรง เพื่อป้องกันการเกิดแสงออโรร่า
เก็บไว้ในร้าน
ควรซักเสื้อผ้าไหม ชุดชั้นใน เสื้อ กางเกง กระโปรง ชุดนอน ฯลฯ ให้สะอาดก่อนเก็บ รีดหลังเก็บ สำหรับเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ควรซักแห้งและรีดเพื่อป้องกันเชื้อราและมอด หลังจากรีดเสร็จยังช่วยฆ่าเชื้อและแมลงได้อีกด้วย ควรทำความสะอาดกล่องและตู้เก็บของให้สะอาดและปิดผนึกให้มิดชิดเพื่อป้องกันฝุ่นละออง
เวลาโพสต์: 11 ม.ค. 2566